วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

โครงสร้าง Phrasal Verb


โครงสร้างของ Phrasal verbs
1. Inseparable Verbs with no objects  คือ phrasal verb ที่ต้องติดกัน ไม่สามารถแยกจากกันได้ ไม่ต้องมีกรรม เช่น
Set off   ออกเดินทาง
Wake up ตื่นนอน
Come in เข้ามาถึง
Carry on ทำต่อไป
Grow up เติบโต
Speed up เร่งความเร็ว
Stand up ยืนขึ้น
Get on ขึ้น(รถ) / เข้ากันได้
Find out เรียนรู้
Turn up ปรากฏตัว
Example : The plane will set off at 6 o’clock.
2. Inseparable Verbs with objects  คือ Phrasal verb ที่ต้องอยู่ติดกัน ไม่สามารถแยกจากกันได้ แต่ต้องมีกรรม เช่น
Look after เลี้ยงดู
Run into ชน
Take after เหมือนถอดแบบ
Go off ออกไป จากไป หยุดทำงาน
Look into สอบถาม ตรวจสอบ
Come across พบโดยบังเอิญ
Deal with ติดต่อ เกี่ยวข้อง
Cope with จัดการ
Example : The babysitter looks after a child.
3. Separable verbs  แยกจากกันได้ มักจะต้องการกรรม วางกรรมตรงไว้หน้า หรือ หลัง Preposition ก็ได้ เช่น
Turn on เปิด(ไฟ)
Turn down หรี่ (เสียง)
Look up มองหา
Try on ลองสวม
Turn off ปิด (ไฟ)
Switch off ปิด
Deal with ถอด, ออกดินทาง
Example : Please turn off the light before going out. หรือ  Please turn the light off before going outอ่านเพิ่มเติมhttp://www.thaistudyfocus.com/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87-phrasal-verb/

การใช้ Phrasal Verb


การใช้คำกริยาที่ปกติแล้วมีความหมายอย่างหนึ่ง แต่ส่วนประกอบ เมื่อ verb+ preposition or particle มารวมกันเป็น Phrasal verbs แล้ว อาจจะทำให้เกิดความหมายใหม่ขึ้นมาซึ่งอาจจะไม่มีเค้าความหมายของคำกริยาเดิมเลย นิยมใช้กันมากในภาษาอังกฤษ
หลักสำคัญในการใช้ Phrasal Verbs หรือ Two-Word Verbs
1.เมื่อไม่มี direct object ต้องวาง adverb ไว้ติดกับ verb เช่น
   - please come in.
   - Don't give up, whatever happens.

2. เมื่อมี object pronoun เช่น him, her, it, them, me, us, เป็น direct object ต้องวาง object เหล่านี้ไว้หน้า adverb เช่น
   - I can't make it out. (right)
   - I can't make out it.(wrong)

3. เมื่อมี noun เช่น book , pen , houses , etc.เป็น direct object จะวาง noun ไว้หน้าหรือหลัง adverb ก็ได้        (verb +adverb +noun) หรือ (verb +noun +adverb) เช่น
   - Turn on the light.  หรือ  - Turn the light on.

4. ตามข้อ 3 ถ้า object เป็นคำยาว เช่นมี object clause ขยายต้องวางobject ไว้หลัง adverb เช่น
   - He gave away every book that he possesed. (right)
   - He gave every book that he possesed away. (wrong)


5. ในประโยคอุทาน (exclamatory Sentences)ให้วาง adverb ไว้หน้าประโยคยืดหลักดังนี้
   5.1 ถ้าประธานเป็น noun เอากริยาตามมาได้เลย เช่น
      -Off went john! = John went off.
   5.2 ถ้าประธานเป็น pronoun ใหัใช้แต่ adverb ไม่ต้องใช้ verb เช่น
      -Away they went ! = They went away.

ประเภทของ Phrasal verbs
1. Inseparable Verbs with no objects  คือ phrasal verb ที่ต้องติดกัน ไม่สามารถแยกจากกันได้ ไม่ต้องมีกรรม เช่น
   set off ออกเดินทาง         Speed up เร่งความเร็ว
   Wake up ตื่นนอน            Stand up ยืนขึ้น
   Come in เข้ามาถึง           Get on ขึ้น (รถ) / เข้ากันได้
   Carry on ทำต่อไป           Find out เรียนรู้
   Grow up เติบโต             Turn up ปรากฏตัว


2. Inseparable Verbs with objects คือ phrasal verb ที่ต้องอยู่ติดกัน ไม่สามารถแยกจากกันได้ แต่ต้องมีกรรม เช่น
   Look after เลี้ยงดู                              Look into สอบถาม ตรวจสอบ
   Run into ชน                                     Come across พบโดยบังเอิญ
   Take after เหมือนถอดแบบ                  Deal with ติดต่อ เกี่ยวข้อง
   Go off ออกไป จากไป หยุดทำงาน         Cope with จัดการ


3. Separable verbs คือ ที่แยกจากกันได้ มักจะต้องการกรรม
   Turn on เปิด(ไฟ)           Turn off ปิด (ไฟ)
   Turn down หรี่ (เสียง)     Swith off ปิด
   Look up มองหา             Take off ถอด ออกดินทาอ่านเพิ่มเติมhttp://www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/knowledge/24337/

วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558

Phrasal Verb

Phrasal verbs are usually two-word phrases consisting of verb + adverb or verb + preposition. Think of them as you would any other English vocabulary. Study them as you come across them, rather than trying to memorize many at once. อ่านเพิ่มเติมhttps://www.englishclub.com/vocabulary/phrasal-verbs-list.htm